HONDA HR-V
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “ฮอนด้า เอชอาร์-วี ที่เปิดตัวในวันนี้เป็นยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ ที่จะมาสร้างมิติใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ประเทศไทย โดยจะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของตลาดรถยนต์ในระดับกลางให้สมบูรณ์มากยิ่ง ขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถสปอร์ตอเนกประสงค์ทางเลือกใหม่ที่ลงตัวกับ ทุกความต้องการที่หลากหลายและรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งฮอนด้าได้พัฒนา ฮอนด้าเอชอาร์-วี ใหม่นี้ ด้วยการผสานความเป็นที่สุดในทุกๆ ด้านเพื่อให้เกิดเป็นยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ เราจึงมั่นใจว่าฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย คุ้มค่ากับการรอคอยอย่างแน่นอน”
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2556 ภายใต้ชื่อ ฮอนด้า วีเซล โดยได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 1 แสนคัน ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ตามมาด้วยประเทศจีน และประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลกและเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ผลิตและเปิดจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ แนวคิดในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์คันนี้ได้รับการพัฒนาบนพื้น ฐานของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี และได้เพิ่มความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ผสานกับฟังก์ชั่นการ ใช้งานแบบอเนกประสงค์ในสไตล์รถมินิแวน
รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นในทุกมิติด้วยรูปทรงตัวถัง
ที่ปราดเปรียว เสริมความรู้สึกแข็งแกร่ง ทรงพลังด้วยตัวถังด้านล่าง
มาพร้อมเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวรอบคันลงตัวกับมือจับเปิดประตูด้านหลังในสไตล์รถ
สปอร์ตคูเป้ และกระจังหน้าได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด Solid Wing Face
เสริมด้วยโทนสีดำ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและมีสไตล์
ผสานความรู้สึกเหนือระดับด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic
Sunroof) พร้อมระบบเปิดปิดแบบ One-Touch
ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบLED และไฟท้าย LED
แบบ Tube
เสริมบุคลิกในสไตล์สปอร์ตล้ำสมัยการออกแบบภายในเน้นความกว้างขวาง
โปร่งโล่งของพื้นที่เหนือแผงคอนโซล ผสานกับคอนโซลกลางแบบ 2
ชั้นที่ถูกออกแบบให้มาพร้อมกับภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ต
พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมอบความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ล้ำสมัย ทั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7
นิ้วรองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส
มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สี พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่
ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นระบบสตาร์ตเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push
Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (HondaSmart Key System)
ยกระดับการใช้งานให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ด้วยห้องสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่
ที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility
Mode, Tall Mode และ Long Mode เพื่อตอบรับทุกการใช้งาน
ฮอนด้า เอชอาร์-วีใหม่ เปี่ยมด้วยสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.8
ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที
ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที
มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม
มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมและการประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศอีกทั้งยังรองรับ
พลังงานทางเลือก E85
และตอบสนองทุกการขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่
พวงมาลัยแบบ 7 สปีด
และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่มอบความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างเหนือ
ระดับครบครันด้วยอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับพรีเมียมในทุกรุ่นอาทิ
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (ElectricParking Brake)
ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ
และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold)
ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง
ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก(ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน
(HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน
(ESS)เสริมด้วยกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle
Rearview Camera) และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง
สมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงแผนการสื่อสารการตลาดว่า “ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่มาด้วยคอนเซปต์การสื่อสารการตลาด Premium x Sport Crossover ผสานสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อกำเนิดใหม่แห่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับ พรีเมียม โดยเป็นการนำเสนอจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอก สไตล์สปอร์ต ผสานกับพื้นที่ภายในกว้างขวางสะดวกสบายเหนือระดับ มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานในระดับพรีเมียม อีกทั้งสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังและเร้าใจในสไตล์สปอร์ตผสานมาตรฐานความ ปลอดภัยที่ล้ำสมัยและครบครัน ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จึงเป็นยนตกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียมที่พร้อมเติมเต็มความต้องการ ของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอันหลากหลายและกำลังมองหาทางเลือก ใหม่ของรถยนต์ในระดับคอมแพคท์เซ็กเมนต์ โดยตั้งเป้าการจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ไว้ที่ 20,000 คันภายในหนึ่งปี”
ฮอนด้าเอชอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่
รุ่น S ราคา 890,000 บาท
รุ่น E ราคา 975,000บาท
รุ่น EL ราคา 1,045,000 บาท
ฮอนด้าเอชอาร์-วีมีให้เลือก 5 สี ได้แก่
สีดำคริสตัล (มุก)
สีขาวออร์คิด (มุก)
สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก)
2 สีใหม่ คือ
สีเทารูสแบล็ค(เมทัลลิก)
สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก)
ในโอกาสที่กลุ่มบริษัทฮอนด้าได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบ 50 ปีในปีนี้ ฮอนด้าได้เตรียมมอบแคมเปญสุดพิเศษ "ฮอนด้า 50 ปี แฮปปี้ 50 ล้าน" เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกคนที่ให้การสนับสนุนฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าที่จองและออกรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นตั้งแต่วันนี้ –31 ธันวาคม 2557 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษในทุกเดือน อาทิ ทองคำแท่งน้ำหนัก 1 กิโลกรัม รถยนต์ ฮอนด้า โมบิลิโอ ทีวีโฮมเธียเตอร์ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า และโทรศัพท์ไอโฟน 6 พลัส นอกจากนี้ ลูกค้ายังมีโอกาสร่วมลุ้นรางวัลพิเศษ “เที่ยวญี่ปุ่นทั้งครอบครัว” ครอบครัวละ 4 ท่าน รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านบาท
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียมที่ผสานความโดดเด่นในด้านต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างลงตัวทั้งดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตที่ผสานกับการออกแบบภายใน ที่หรูหราและฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียมอีกทั้งสมรรถนะการขับขี่สปอร์ต เร้าใจ ผสานกับเทคโนโลยีความปลอดภัย ซึ่งแนวคิดในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์คันนี้ได้รับการพัฒนาบน พื้นฐานของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ เอสยูวีและได้เพิ่มความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ ผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ในสไตล์รถมินิแวน
รูปลักษณ์ภายนอก ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Dynamic Cross Solid” ผสานกับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยตัวถังด้านหน้าที่มีรูปทรงปราดเปรียวลงตัวกับมือจับเปิดประตูด้านหลัง ที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับกระจกรถยนต์ในสไตล์สปอร์ตคู เป้ เสริมด้วยตัวถังด้านล่างที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ทรงพลัง กระจังหน้าได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด SolidWing Face เสริมด้วยโทนสีดำเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและมีสไตล์ผสานความรู้สึก เหนือระดับด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิดปิดแบบ One-Touch (เฉพาะรุ่น EL) ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (เฉพาะรุ่น E และ EL) และไฟท้าย LED แบบ Tube(เฉพาะรุ่น EL)
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
แนวคิดพื้นฐานในการออกแบบ “Exciting H Design” ที่ถูกนำมาใช้ในรถยนต์ทุกรุ่นของฮอนด้า ได้รับการต่อยอดและสร้างสรรค์ผ่านฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ กับแนวคิด “Expansive Cockpit” โดยเน้นความกว้างขวางโปร่งโล่งของพื้นที่เหนือแผงคอนโซล ผสานกับคอนโซลกลางแบบ 2 ชั้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้าง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ควบคุมทุกการใช้งานด้วยปลายนิ้วสัมผัส
·ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น E และ EL)รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri (สำหรับ iPhone4s ขึ้นไป)
·ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส
·มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สีพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (เฉพาะรุ่น EL)
·ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI (เฉพาะรุ่น E และ EL) และช่องจ่ายไฟสำรอง
·ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
·พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ7 สปีด (เฉพาะรุ่น Eและ EL)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น E และ EL
สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์พร้อมปุ่มควบคุมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่(เฉพาะรุ่น EL)
เบาะที่นั่งผู้โดยสารได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวางเพื่อตอบสนองความ สะดวกสบายของผู้โดยสารในทุกอิริยาบถ ทั้งยังยกระดับการใช้งานให้ลงตัวกับสไตล์ของคนรุ่นใหม่ ห้องสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
·UtilityMode : พับเบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลังได้มากขึ้น
·TallMode : พับเบาะด้านหลังขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของทรงสูง
·LongMode : พับเบาะทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
สมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ให้การขับขี่ที่สปอร์ตเร้าใจฮอนด้าเอชอา ร์-วี ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบ
เกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม รองรับพลังงานทางเลือก E85 ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ทุกรุ่นยังมีระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist ที่มาพร้อมกับระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Coaching รวมถึงปุ่ม Econ Mode ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองโดยจะปรับการทำงานของ เครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสาร ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถเพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพสูงสุด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น